top of page

Stay in the Know With

The Happening Ar     und

ซูมลุคเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้ จากค่ำคืนในงานกาล่าดินเนอร์ ฉลองเปิดตัวไฮจิวเวลรี่ “Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

  • รูปภาพนักเขียน: Happening Around
    Happening Around
  • 25 มิ.ย.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 3 ส.ค.

เพียเจต์ (Piaget) เปิดตัว Shapes of Extraleganza คอลเล็กชันเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงประจำปี 2025 อย่างเป็นทางการ โดยปีนี้เมซงเลือกเฉลิมฉลองผลงานการสร้างสรรค์บทที่สองภายใต้ซีรีส์ไตรภาค Extraleganza ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ผ่านนิทรรศการสุดยิ่งใหญ่ที่พาคุณไปสำรวจอย่างลึกซึ้ง ถึงแง่มุมแห่งความกล้าหาญ ความสามารถในการเล่นกับรูปทรง ตลอดจนความหรูหราที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน อันเป็นแก่นแท้ของสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมซง

“Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

Shapes of Extraleganza คอลเล็กชันเครื่องประดับจิวเวลรีชั้นสูง ผลงานการสร้างสรรค์ภาคต่อจาก Essence of Extraleganza ที่ในปีนี้เผยโฉมออกมาด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และความตื่นเต้นอีกครั้ง ผ่านการนำเสนอชิ้นงานที่เปี่ยมด้วยความร่วมสมัยและมีความหมายทางวัฒนธรรม บอกเล่าความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของเพียเจต์ที่มีต่องานศิลปะ ทั้งยังเชิดชูความร่วมมือระหว่างเมซงและศิลปินต่างๆ ไปจนถึงบรรดานักสะสมที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

แม้จะถ่ายทอดมุมมองทางศิลปะต่างกันออกไป แต่เครื่องประดับแต่ละชุดภายใต้ Shapes of Extraleganza กลับเชื่อมโยงขนบของเมซงในทุกมิติเวลาไว้อย่างเหนียวแน่น เป็นการบรรจบกันของอดีตและปัจจุบัน ประวัติศาสตร์และความทันสมัยได้อย่างลงตัว ทั้งยังแฝงด้วยจิตวิญญาณแห่งความสนุกสนาน เย้ายวนและยากที่จะคาดเดาในแบบฉบับของเพียเจต์ ประกอบด้วยผลงานทั้งหมด 51 ชิ้น ที่เน้นการเล่นกับลายเส้นกราฟฟิก รูปทรงเรขาคณิต สามเหลี่ยมที่เฉียบคม ไปจนถึงรูปทรงที่เป็นอิสระ ทั้งยังอ้างอิงถึงศิลปะแนว Pop Art, Op Art ลวดลายก้นหอยที่มักพบในแฟชั่นยุค 70s หรือเส้นโค้งมนอันเป็นดีไซน์เฉพาะตัวของยุค 60s เรียกได้ว่าเป็นการพบกันระหว่างโลกแห่งจิวเวลรีชั้นสูงและวัฒนธรรมป็อปที่ลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์

“Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

สำหรับกาล่าดินเนอร์ดังกล่าวจัดขึ้นที่ Seminari Conciliar de Barcelona โดยมี สามโกลบอล แอมบาสเดอร์คนสำคัญของแบรนด์ เดินทางไปร่วมงาน นำโดย อาโป-ณัฐวิญญ์ จากประเทศไทย, เจียนนา จอน และอีจุนโฮ จากฝั่งเกาหลีใต้ ร่วมด้วยแบรนด์เฟซชาวอังกฤษ Ella Richards หรือที่คุ้นเคยกันดีในฐานะหลานสาวของ Keith Richards แห่งวง The Rolling Stones และนักแสดงชาวอเมริกัน Amber Valletta ที่ปรากฏตัวในฐานะ เฟรนด์ของแบรนด์คนล่าสุด

“Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

อาโป เลือกสวมเรือนเวลา Andy Warhol รุ่น High Jewellery เวอร์ชั่นล่าสุด หน้าปัดรังสรรค์จากโอปอลที่แต่งแต้มไปด้วยประกายสีน้ำเงินและสีเขียวหลากโทน ราวกับภาพสะท้อนจากกล้องสลับลาย อีกหนึ่งชิ้นงานที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในการคัดสรร จนสามารถเฟ้นหาโอปอลที่มีขนาดใหญ่พอกับตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตร ได้อย่างเหมาะเจาะ ประดับแซฟไฟร์ทรงบาแกตต์ที่จัดเรียงอย่างสมบูรณ์แบบเป็นสามแถวล้อมรอบขอบตัวเรือน เพิ่มความโดดเด่นให้สไตล์ด้วยต่างหู Treasures ที่นำมาประดับเป็นเข็มกลัดบนปกสูทได้อย่างชาญฉลาด

 

ขณะที่สองตัวแทนจากเกาหลีใต้ ร่วมกันถ่ายทอดเสน่ห์ของคอลเล็กชันไฮจิวเวลรี Shapes of Extraleganza ได้อย่างน่าค้นหา โดย เจียนนา จอน ปรากฏตัวพร้อมเครื่องประดับชุด Wave Illusion ที่งดงามด้วยสปิเนลสีแดงและสีชมพูอมส้มอันหายาก ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากกระแส Memphis ในปี 1980 ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในแง่สีสันและเส้นเรขาคณิตอันบริสุทธิ์ ด้าน อีจุนโฮ มาในลุคนาฬิกา Arty Pop หน้าปัดมาลาไคท์ ที่หยิบเอาความหลากหลายทางด้านรูปทรงและเส้นสายมาเชื่อมโยง ซ้อนทับกันอย่างมีสไตล์ จับคู่กับแหวน Graphic Prism ประดับมรกตและเพชร ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับธีมของนาฬิกา


ชิ้นงานไฮไลต์ของคอลเล็กชันไฮจิวเวลรี Shapes of Extraleganza

“Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

ชุดเครื่องประดับ Kaleidoscope Lights ที่ประกอบด้วยสร้อยคอลายเส้นขนาดใหญ่ ต่างหูระย้ายาว แหวน ไปจนถึงนาฬิกาพร้อมหน้าปัดแต่งลายรัศมีดวงอาทิตย์ โดยความพิเศษของเครื่องประดับชุดนี้ คือ การเลือกใช้หินแร่อันล้ำค่าต่างชนิด รวมถึงหินหายาก อย่าง โรโดโครไซต์ ซูจิไลต์ และเวอร์ไดต์ โดยนำมาผ่านการเจียระไนอย่างพิถีพิถันให้เป็นแผ่นโค้งที่มีความหนาต่างกัน จากนั้นจึงนำมาจัดวางเรียงกันจนเกิดเป็นลวดลายที่สวยงามน่าอัศจรรย์

“Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

กระแส “หวนคืนสู่ธรรมชาติ” จากยุค 1970s ได้รับการถ่ายทอดผ่านเครื่องประดับชุด Flowing Curves อันมีการออกแบบรูปทรงอิสระที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งประกอบด้วยโอปอลสีดำหายาก ประดับฝังลงบนตัวเรือนไวท์โกลด์ที่ตีขึ้นรูปด้วยมืออย่างประณีต เป็นเทคนิคเฉพาะจาก House of Gold เกิดเป็นลวดลาย Decor Palace อันโด่งดัง ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องประดับชุดนี้ยังเป็นผลงานที่แสดงความเคารพต่อความหลงใหลในโอปอลของ Yves Piaget อีกด้วย ดังคำที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า เขาสามารถมองเห็น “โลกทั้งใบที่สร้างขึ้นด้วยรสนิยมและความรู้สึกที่หลากหลาย”

“Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

ขณะที่แซฟไฟร์สีเหลืองอร่ามราวกับประกายแสงแดด เป็นหัวใจของเครื่องประดับชุด Curved Artistry อันเต็มไปด้วยโทนสีลูกกวาด ประกอบด้วยชิ้นงานไฮไลท์ อย่าง แหวนซ่อนนาฬิกา (Secret Ring Watch) อันเป็นผลงานเอกลักษณ์จากการสร้างสรรค์ของเพียเจต์ ในยุค 1940s โดยหน้าปัดนาฬิกาฝังเพชรจะถูกซ่อนไว้ภายใต้อความารีนทรงหลังเบี้ยใสที่ส่องประกาย

“Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

นาฬิกากำไลข้อมือสองเรือนจากชุด Joyful Twirls ที่มีสายกำไลข้อมืออันพริ้วไหวอ่อนนุ่มและลวดลายแวววาว เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาจากสีสันของอัญมณีที่ปูประดับด้วยเทคนิค Pavé

  • โดยนาฬิการุ่นแรกประดับด้วยแซฟไฟร์สีน้ำเงินเข้มในสองเฉดที่ให้ความรู้สึกลึกลับ

  • ขณะที่นาฬิกาอีกรุ่นแต่งแต้มในโทนสีส้มจัดจ้านจากสเปซซาร์ไทต์การ์เนตและแซฟไฟร์สีชมพูที่ตัดกันอย่างเจิดจ้า

“Shapes of Extraleganza” จาก Piaget

ผลงานชิ้นเอกของคอลเลกชั่นนี้ที่สร้างความตื่นตะลึง นั่นคือ Endless Motion นาฬิกาตั้งโต๊ะที่ออกแบบและประดิษฐ์ขึ้นให้เสมือนเป็นงานประติมากรรมที่เคลื่อนไหวได้ (Mobile Sculpture) ผลงานชิ้นนี้เป็นตัวแทนแห่งสายสัมพันธ์ของ Piaget ที่มีให้กับโลกศิลปะและศิลปินทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นผลงานที่รังสรรค์เพื่อยกย่องอัจฉริยภาพของ Alexander Calder และผลงานศิลปะแนวจลศาสตร์จากยุค 1970 กล่าวได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลองให้กับการสร้างสรรค์บนแนวทาง “Play of Shape” หรือการเล่นกับรูปทรงที่เมซงยึดมั่นมาอย่างยาวนาน   

ความคิดเห็น


bottom of page