top of page

Stay in the Know With

The Happening Ar     und

Google สนับสนุนโครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ของ กทม. ในพื้นที่กรุงเทพฯ และทั่วประเทศด้วย Chromebook และ Gemini for Education

  • รูปภาพนักเขียน: Happening Around
    Happening Around
  • 6 ธ.ค.
  • ยาว 1 นาที

Google ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อการศึกษาไทย เดินหน้าสนับสนุน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในโครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มสำคัญที่มุ่งปฏิรูปการศึกษาทั่วกรุงเทพฯ ด้วยการนำเครื่องมือ AI ใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน


Google สนับสนุนโครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ของ กทม.

ในการเริ่มต้นดำเนินการอย่างเป็นทางการของโครงการนี้ กทม. ได้จัดพิธีมอบ Chromebook ชุดใหม่อย่างเป็นทางการ ณ โรงเรียนราชบพิธ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 437 โรงเรียนในสังกัด กทม. ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ โดยจะมีการส่งมอบ Chromebook จำนวนทั้งหมด 43,700 เครื่อง ให้แก่นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มุ่งพลิกโฉมห้องเรียนที่มีการเรียนการสอนด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวา สนุกสนาน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


Chromebook ได้รับเลือกให้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับโครงการนี้ ซึ่งเหมาะสำหรับการเข้าถึงฟีเจอร์ AI ล่าสุด ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จ Google จะให้การสนับสนุนและฝึกอบรมอย่างครอบคลุมแก่บุคลากรทางการศึกษาของ กทม. ในการใช้ Chromebook, Google Classroom และ Gemini for Education ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน Gemini เวอร์ชันที่สร้างขึ้นสำหรับชุมชนการศึกษาโดยเฉพาะ โดยการส่งมอบ Chromebook ณ โรงเรียนราชบพิธ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ กทม. ที่จะมอบอุปกรณ์และทักษะที่จำเป็นให้กับนักเรียนทุกคนเพื่อให้พวกเขาเติบโตและมีความก้าวหน้าในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ของกรุงเทพฯ


Google สนับสนุนโครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ของ กทม.

การประยุกต์ใช้ AI ของ Google เพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษา

งานวิจัยโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ดำเนินการในโรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 111 แห่ง ได้แสดงให้เห็นว่าการนำอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ทำงานด้วยระบบ AI มาใช้ในชั้นเรียนสามารถช่วยปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งช่วยครูประหยัดเวลาในการทำงานธุรการ ทำให้มีเวลาสอนนักเรียนได้อย่างเต็มที่มากขึ้น โดยงานวิจัยนี้พบว่าชั้นเรียนที่ใช้ Chromebook ส่งผลให้

  • นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้นและส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก: ข้อมูลจากการศึกษานักเรียนกว่า 4,000 คน แสดงให้เห็นถึงการตอบรับในเชิงบวกอย่างล้นหลาม โดย 91% ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเรียน ที่สำคัญกว่านั้น กว่า 87% มีทัศนคติเชิงบวกต่อเทคโนโลยีและรู้สึกอยากมีส่วนร่วมในการเรียนอย่างกระตือรือร้น นอกจากนี้ 68% ของนักเรียนรู้สึกว่าครูให้คำติชม ที่มีความหมายและมีความสำคัญต่องานมากขึ้น

  • ส่งเสริมการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21: คะแนนทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน (เช่น การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การทำงานร่วมกัน) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (จาก 7.9 เป็น 10 คะแนน) จากการประเมิน 3 ครั้งโดยใช้ Google Classroom ซึ่งช่วยให้การให้คะแนนจากชิ้นงานจริงของนักเรียนเป็นเรื่องง่ายและมีหลักฐานอ้างอิงที่ชัดเจน

  • ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น: การบูรณาการ Chromebook และ Google Workspace ในการเรียนการสอน ไปพร้อมๆ กับการสนับสนุนการพัฒนาทางวิชาชีพ ส่งผลให้คะแนนความสามารถในการบูรณาการเทคโนโลยีของครูเพิ่มขึ้นถึง 21% ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น โดย 81% ของครูเห็นพ้องต้องกันว่าโซลูชันด้านการศึกษาของ Google ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ในขณะที่ 95% ของครูเห็นด้วยว่าควรขยายโครงการนี้ไปยังโรงเรียนในสังกัด กทม. ทั้งหมด

Google สนับสนุนโครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ของ กทม.

นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “โครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ของ กทม. มีจุดมุ่งหมายเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของโรงเรียนในสังกด กทม. ภายใต้การสนับสนุนจาก Google ผ่านเครื่องมืออย่าง Google Classroom, Chromebook และ Gemini for Education เราจะเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้กับครู เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนและทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับการศึกษาให้ทันสมัยและเตรียมความพร้อมให้กับพลเมืองรุ่นต่อไปของกรุงเทพฯ สำหรับอนาคตในยุคดิจิทัล”


Stuart Miller หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google for Education ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลของโรงเรียนในสังกัด กทม. ผ่าน Chromebook และ Gemini for Education เรามุ่งมั่นที่จะพลิกโฉมการศึกษาด้วยการช่วยให้นักเรียนและครูเข้าถึงเครื่องมือ AI ที่ล้ำสมัย ทรัพยากรการเรียนรู้ที่หลากหลาย และสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการเรียนรู้ เราเชื่อว่า Chromebook, Google Classroom และความสามารถที่ตอบโจทย์การเรียนรู้เฉพาะด้านของ Gemini for Education จะช่วยยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนและเสริมสร้างศักยภาพให้กับคนรุ่นต่อไปที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติได้อย่างมาก” 


เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่ทำงานด้วยระบบ AI อันล้ำสมัยของ Google กำลังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอนของนักเรียนและครูทั่วประเทศไทย และ Google ยังคงมองหาวิธีในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยสนับสนุนสถานศึกษาในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการยกระดับการศึกษาของไทยที่ Google ให้ความสำคัญมาโดยตลอด

ความคิดเห็น


bottom of page