DKSH ประเทศไทย ก้าวสู่ปีที่ 120 เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ด้วยมาตรฐานสากลและเทคโนโลยีล้ำสมัย
- Happening Around

- 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
DKSH ประเทศไทย เดินหน้าสร้างคุณค่าอย่างครบวงจร ตั้งแต่ศูนย์กระจายสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โครงการที่ช่วยขยายการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ไปจนถึงวัฒนธรรมการทำงานที่ยึด ‘ผู้คน’ เป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกธุรกิจ องค์กรต้องเดินหน้าและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ควบคู่กับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร พนักงาน และสังคมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน สำหรับ DKSH ประเทศไทย หลักการทั้งสามนี้ได้หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในทุกขั้นตอน นำไปสู่การสร้างคุณค่าที่ต่อยอดให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมส่งต่อประโยชน์ร่วมแก่ชุมชนและสังคมในระยะยาว
ด้วยการดำเนินธุรกิจครอบคลุม 4 หน่วยธุรกิจหลัก ได้แก่ หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods), หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Healthcare), หน่วยธุรกิจวัตถุดิบอุตสาหกรรม (Performance Materials) และหน่วยธุรกิจเทคโนโลยี (Technology) DKSH ทำหน้าที่เป็นพันธมิตรที่พร้อมสนับสนุนบริษัทต่างๆ ให้เติบโตทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ผ่านการผสานศักยภาพด้านระบบโลจิสติกส์ระดับโลก ความเชี่ยวชาญด้านการตลาด และวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับผู้คน เพื่อร่วมสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจและสังคมโดยรวม
ตั้งแต่การเสริมศักยภาพศูนย์กระจายสินค้าด้วยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ไปจนถึงโครงการที่ส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และการส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและคุณภาพชีวิตของพนักงาน DKSH เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรด้วยแนวทางที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและสังคม มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว สะท้อนวิสัยทัศน์การเติบโตที่ไม่ได้วัดเพียงผลประกอบการ แต่รวมถึงผลดีที่เกิดขึ้นกับสังคมอย่างแท้จริง
DKSH มุ่งสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดเพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยทั้งสี่หน่วยธุรกิจร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาการดำเนินงานให้สอดรับกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ผ่านการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ การขยายการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ตลอดจนถึงการจัดหาวัตถุดิบและเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมศักยภาพให้ภาคการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสนับสนุนสังคมผ่านโครงการต่างๆ เพื่อสร้างประโยชน์และเพิ่มโอกาสให้กับผู้คน ความพยายามเหล่านี้คือรากฐานสำคัญของการเติบโตขององค์กรในระยะยาวอย่างยั่งยืน
เสริมศักยภาพการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของทุกอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค
DKSH เดินหน้ายกระดับศักยภาพด้านการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พันธมิตรในทุกอุตสาหกรรมได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และพร้อมรองรับการเติบโตในระยะยาว ผ่านการผสานเทคโนโลยีขั้นสูง ระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร และความเชี่ยวชาญในตลาดไทย ช่วยให้สินค้าและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศและภูมิภาคได้อย่างปลอดภัย ตรงเวลา และมีประสิทธิภาพ

หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคของ DKSH มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนพันธมิตรให้ขยายธุรกิจได้เต็มศักยภาพ โดยผสานระบบบริหารคลังและกระจายสินค้าแบบครบวงจรเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการขยายตลาด ศูนย์กระจายสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภค (CGDC) ซึ่งเป็นหนึ่งในคลังสินค้าขนาดใหญ่ของหน่วยธุรกิจฯ ทำหน้าที่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงาน ภายในศูนย์มีการติดตั้งเทคโนโลยีอัตโนมัติ เช่น ระบบคลังสินค้าที่ทำงานด้วย AIโดรนสำหรับตรวจนับสินค้า และ Vertical Lift Systems เพื่อให้การจัดเก็บและเตรียมสินค้ามีความแม่นยำและปลอดภัย
นอกเหนือจากการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคยังให้บริการด้านการขยายตลาดแบบครบวงจร ครอบคลุมทุกช่องทางตั้งแต่โมเดิร์นเทรด ร้านโชว์ห่วย ร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารหน้าร้านและการตลาด ณ จุดขาย ทำงานร่วมกันกับทีมขายที่เชี่ยวชาญในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อยอดโอกาสการเติบโตในสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของใช้ส่วนบุคคล หรือสินค้าความงาม
ในขณะเดียวกัน หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพยกระดับกระบวนการจัดการและกระจายสินค้า ด้วยระบบปฏิบัติการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงและคลังควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ เพื่อให้การส่งมอบยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัยทั่วประเทศ โดยล่าสุดได้เริ่มใช้งานระบบอัตโนมัติ ‘A-Frame’ ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วและความถูกต้องในการหยิบสินค้าได้ถึง 40% พร้อมพัฒนาระบบควบคุมอุณหภูมิให้ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บ ไปจนถึงการขนส่ง (cold-chain) สำหรับยากลุ่มเฉพาะทาง นอกจากนี้ ยังได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาค (Satellite Distribution Center) ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้บริการด้านสุขภาพเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ
สำหรับหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีของ DKSH มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมและขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย ผ่านโซลูชันด้านระบบอัตโนมัติ อุปกรณ์วัดและควบคุมคุณภาพที่มีความแม่นยำสูง ประกอบกับความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่ช่วยให้ลูกค้ายกระดับกระบวนการผลิตและต่อยอดนวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายขีดความสามารถด้านระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม รวมถึงเสริมความร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่มอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของงานวิจัยและพัฒนา (R&D) และภาคการผลิตของประเทศในระยะยาว
และในธุรกิจวัตถุดิบอุตสาหกรรม สนับสนุนผู้ประกอบการในกลุ่มอาหารและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมบริการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถนำเสนอสินค้าใหม่สู่ท้องตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย DKSH ให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมช่วยขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้พันธมิตรทางธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม
นางภรณี ดาเลลีโอ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายการเงิน และหัวหน้าคณะบริหาร บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การพัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสนับสนุนพันธมิตรได้อย่างเต็มที่ การใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมการทำงาน ระบบโลจิสติกส์ที่พร้อมรองรับความต้องการของตลาด และความเชี่ยวชาญของทีมจากทุกหน่วยธุรกิจ ทำให้ DKSH สามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ตามความต้องการ และช่วยให้ลูกค้าเติบโตได้อย่างมั่นใจ”
ขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วยความยั่งยืนและความุ่งมั่นในการรับผิดชอบต่อสังคม
DKSH ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ศูนย์กระจายสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภค การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อขนส่งสินค้า ไปจนถึงการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001, 14001 และ 45001 แนวทางเหล่านี้สะท้อนความตั้งใจของ DKSH ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง จนได้รับรางวัล ‘Climate Action Leader Award 2025’ จากสมาคมการตลาดอาหารและเกษตรแห่งเอเชียและแปซิฟิก (AFMA)

นอกเหนือจากด้านสิ่งแวดล้อม DKSH ยังสานต่อความรับผิดชอบต่อสังคมที่ส่งเสริมสุขภาพ การศึกษา และคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ ‘Patient Purpose Day Run 2025’ ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่ระดมทุนสนับสนุนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมให้กับผู้หญิงไทยที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงการดูแลรักษาขั้นพื้นฐาน
DKSH ยังร่วมมือกับโรงพยาบาล องค์กรไม่แสวงหากำไร และหน่วยงานในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อขยายการเข้าถึงข้อมูลและบริการด้านสุขภาพให้ประชาชนทั่วประเทศ หนึ่งในโครงการสำคัญคือความร่วมมือกับ ‘มูลนิธิบ้านเด็ก’ เพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพ ขยายการเข้าถึงการตรวจสุขภาพพื้นฐานในชุมชน รวมถึงมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่เด็กและครอบครัวที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดและพื้นที่ก่อสร้าง

พร้อมกันนี้ DKSH ยังสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านความยั่งยืนและการช่วยเหลือชุมชน ผ่านโครงการจิตอาสาและกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร แนวทางนี้สะท้อนความเชื่อของ DKSH ว่าการดูแลผู้คนและสิ่งแวดล้อมเริ่มต้นได้จากการสร้างวัฒนธรรมที่เข้มแข็งภายในองค์กรเอง
“สำหรับ DKSH ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การมุ่งสู่เป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ไปจนถึงการสนับสนุนโครงการที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ทุกความพยายามสะท้อนความเชื่อของเราว่า การเติบโตที่ดีต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ และต้องส่งต่อผลลัพธ์ที่ดีให้กับผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม” นายมาเธียส เกรเกอร์ กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจวัตถุดิบอุตสาหกรรม บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ความร่วมมือและความมุ่งมั่นของ DKSH ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับด้วยรางวัล ‘Quo Vadis Sustainability Award’ รางวัลนี้สะท้อนบทบาทขององค์กรในฐานะผู้นำที่ขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
พลังจากบุคลากร สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของ DKSH
ที่ DKSH เชื่อว่าความสำเร็จเริ่มต้นจาก ‘ผู้คน’ วัฒนธรรมการทำงานจึงถูกออกแบบบนพื้นฐานของความใส่ใจ สนับสนุนการทำงานเป็นทีม และเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม แนวคิดนี้ไม่เพียงสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต แต่ยังทำให้ DKSH เป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างแท้จริง
ความมุ่งมั่นดังกล่าวได้รับการยืนยันผ่านรางวัลระดับสากล อาทิ Most Caring Company และ Best Companies to Work for in Asia จาก HR Asia Awards 2025 รวมถึงการได้รับรางวัล Great Place to Work® ต่อเนื่องเป็นปีที่สองในปีนี้ รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ DKSH ในการสร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับคน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน
นางมธุกร สัลยะพงษ์ รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคล ประจำประเทศไทย บริษัท DKSH ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “สำหรับ DKSH การดูแลผู้คนไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งของงาน แต่เป็นหลักคิดที่เรายึดมั่นมาโดยมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพ หรือการทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตไปด้วยกัน รางวัลที่ได้รับในปีนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แนวทางที่ให้ ‘ผู้คน’ เป็นศูนย์กลางกำลังสร้างผลลัพธ์ที่ดี ทั้งต่อองค์กรและต่อสังคมโดยรอบ”
DKSH ยังเดินหน้าส่งเสริมความหลากหลาย การมีส่วนร่วม และความปลอดภัยในที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในเอเชีย พร้อมสถิติการดำเนินงานโดยไม่เกิดอุบัติเหตุรวมกว่า 4.5 ล้านชั่วโมง ภายใต้โครงการ Zero Accident และได้รับรางวัล Excellent Establishment in Safety ต่อเนื่องเป็นปีที่เจ็ด
เส้นทางสู่ปีที่ 120 แห่งการเติบโตของ DKSH
DKSH ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ปีที่ 120 ในปี 2569 เส้นทางแห่งความสำเร็จนี้เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทจัดจำหน่ายสินค้า สู่การเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจในหลากหลายอุตสาหกรรม ตลอดกว่า 120 ปี DKSH ยังคงยึดมั่นเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คน ผ่านการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ การนำนวัตกรรมมาปรับใช้ และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและสังคม
โดยปัจจุบัน DKSH ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเติบโตของภูมิภาค ทำหน้าที่เชื่อมโยงแบรนด์ระดับโลกเข้าสู่ตลาดเอเชีย พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจผ่านเครือข่ายกว่า 30 ประเทศทั่วโลก และในอนาคต DKSH มีแผนขยายการใช้พลังงานหมุนเวียน เพิ่มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบโลจิสติกส์ และพัฒนานวัตกรรมด้านความยั่งยืน เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions)
ตลอดปี 2568 DKSH ยังคงยึดมั่นในพันธกิจในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ผ่านการสนับสนุนการเติบโตของพันธมิตร การช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม และการผลักดันความก้าวหน้าที่ตั้งอยู่บนความยั่งยืน ทุกความมุ่งมั่นในวันนี้ คือก้าวสำคัญสู่อนาคตที่ดีกว่า เพื่อส่งต่อประโยชน์ให้กับสังคมและคนรุ่นต่อไปอย่างแท้จริง



ความคิดเห็น